ประวัติความเป็นมา
ประวัติของ บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
MAGURO Group
มีจุดเริ่มต้นจากความหลงใหล ในศิลปะของอาหาร และวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่น
Give More
เมื่อเราได้มีประสบการณ์ ได้เห็นเชฟรังสรรค์อาหารที่สอดแทรกศิลปะในการทำอาหารถึงประเทศญี่ปุ่น จึงจุดประกายความมุ่งมั่นที่จะนำโอกาสดีๆ แบบนี้มาให้คนไทยได้สัมผัส รวมถึงความประทับใจในวัฒนธรรม “การให้มากกว่าที่ขอ” หรือ “ GIVE MORE” ของคนญี่ปุ่น ที่ผู้ร่วมก่อตั้งทั้ง 4 ท่านได้สัมผัสด้วยตัวเอง และยึดมาเป็นปรัญญาและแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท มาตั้งแต่นั้นจนถึงทุกวันนี้
นั่นคือกำเนิดของ แบรนด์ MAGURO ที่เป็นแบรนด์แรกของกลุ่ม ซึ่งเปิดสาขาแรกในปี 2558 ที่ ชิค รีพับบลิค บางนาโดย ในขณะนั้นมีพนักงานประจำสำนักงานใหญ่เพียง 10 คน
Sensual Sushi
แบรนด์ MAGURO เริ่มต้นจากการเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วย “ซูชิที่เต็มอิ่มทุกสัมผัส” (Sensual Sushi) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในเวลาอันรวดเร็ว จากการใช้กลยุทธ์ Digital Marketing ที่จับใจกลุ่มเป้าหมาย นับได้ว่า เป็นแบรนด์แรกๆ ในวงการที่ใช้กลยุทธ์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้ในช่วงเวลานั้นเกิดปรากฏการณ์ talk of the town ว่า “MAGURO คือร้านซูชิคิวยาว” ทุกคนยินดีต่อแถวเป็นชั่วโมงๆ เหมือนกับร้านอาหารชื่อดังในญี่ปุ่น นอกจากนั้นความนิยมของแบรนด์ในแง่ของ ความคุ้มค่า ความสดใหม่และคุณภาพชั้นเยี่ยมของวัตถุดิบ รสชาติที่กลมกล่อมลงตัวของอาหาร และบริการที่ใส่ใจขั้นกว่า นำไปสู่การบอกต่อกันในหมู่เพื่อนฝูงและคนรู้จัก
History
หลังจากความสำเร็จอย่างมากของสาขาแรก บริษัท มากุโระ กรุ๊ป ที่นำโดยผู้ร่วมก่อตั้งซึ่งควบตำแหน่งผู้บริหาร 4 ท่าน ได้พัฒนาสูตรอาหาร การให้บริการ และการทำแบรนด์อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 1 ปีแรก จึงได้มีการเปิดสาขาเพิ่มในปี 2559 อีก 3 สาขา โดยเน้นทำเลไปที่ย่านที่พักอาศัยในบริเวณกรุงเทพชั้นนอก เช่น ราชพฤกษ์ และ แจ้งวัฒนะ จนเมื่อปี 2560 มากุโระ ได้มีสาขาในห้างสรรพสินค้าเป็นครั้งแรกที่ เมกะ บางนา เป็นสาขาที่ 5 หลังจากนั้นในช่วงปี 2561 – 2663 บริษัทได้ทำการเปิดสาขาเพิ่มอีก 4 สาขา เพื่อมอบประสบการณ์มากุโระ ให้กับลูกค้าในเขตกรุงเทพชั้นในมากขึ้น เช่นในสยามสแควร์ ห้างเอสพลานาดรัชดา รวมถึงกระจายไปย่าน พระราม 2 ด้วยเช่นกัน
ในปี 2563 บริษัทมากุโระ กรุ๊ป ได้เปิดตัวระบบสั่งอาหารแบบจัดส่งถึงบ้าน (Delivery Service) ภายใต้ แบรนด์ MAGURO GO เพื่อให้ลูกค้ายังได้สัมผัสประสบการณ์มากุโระอย่างเต็มอิ่มในช่วงสถานการณ์โรคระบาด Covid-19 นอกจากนี้ ทางบริษัทได้มีการเปิดตัว แบรนด์ใหม่ “SSAMTHING TOGETHER” ปิ้งย่างเกาหลี ในรูปแบบ Delivery เอาใจกลุ่มลูกค้าที่ชอบอาหารเกาหลี โดยเริ่มเปิดตัวด้วย concept การทานปิ้งย่างแบบเกาหลีคู่กับการดูซีรี่ย์เกาหลีในช่วง lockdown และ Work From Home
ในปี 2564 บริษัท มากุโระ กรุ๊ป ได้ทำการฉลองการเข้าสู่ปีที่ 6 ด้วยการเปิดสาขา Flagship Store ที่ใหม่ใจกลางศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด พร้อมกับ การ rebranding ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ ให้ดูพรีเมี่ยมและทันสมัย มากยิ่งขึ้นและจากกระแสความนิยมของแบรนด์ SSAMTHING TOGETHER ในรูปแบบ Delivery ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เล็งเห็นโอกาสจึงได้ต่อยอดแบรนด์ SSAMTHING TOGETHER และพัฒนาสูตรอาหารจนกลายเป็นแบรนด์ร้านอาหารเกาหลีพรีเมี่ยมรสชาติจัดจ้าน ที่มาพร้อมกับวัฒนธรรมการทานแบบต้นตำรับเกาหลี เต็มที่ด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี และเปิดสาขาแรกอย่างเป็นทางการ ที่ห้างสรรพสินค้า เมกะ บางนาในปีเดียวกัน บริษัท มากุโระ กรุ๊ป ได้ผนึกกำลังกับกลุ่มทุนสถาบันชั้นนำในภูมิภาคเอเชียกว่า 300 ล้านบาท เพื่อต่อยอดและขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต
ในปี 2565 บริษัท มากุโระ กรุ๊ป เปิดตัวแบรนด์ที่ 3 ในเครือ ใจกลางห้างสรรพสินค้า สยามพารากอน ภายใต้ชื่อ“HITORI SHABU ชาบูชาบูและสุกียากี้ต้นตำรับญี่ปุ่นแบบคันไซ มอบประสบการณ์การทานในรูปแบบหม้อเดี่ยว และรสชาติของเนื้อพรีเมียมระดับ A5 ในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย บริษัทได้เปิดตัว “ระบบการบริหารจัดการลูกค้าสมาชิก” อย่างเป็นทางการ โดยได้นำระบบ CRM หรือ Customer Relationship Management ระดับสากลอย่าง Sale Force เข้ามา บริหารจัดการระบบลูกค้าสมาชิกสัมพันธ์ ให้กับทุกแบรนด์ในเครือ จนถึงวันนี้ ลูกค้าสมาชิกในเครือมากุโระ กรุ๊ป มีจำนวนกว่า 100,000 คน
จากความนิยมและความสำเร็จของแบรนด์น้องใหม่ทั้ง 2 แบรนด์ SSAMTHING TOGETHER และ HITORI SHABU ร่วมกับความจงรักภักดีในแบรนด์ที่เพิ่มขึ้นของแบรนด์ MAGURO ทำให้บริษัทสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายสาขาของทั้ง 3 แบรนด์ เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าในย่านต่างๆ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
ณ ปัจจุบัน ในปี 2566 พนักงานกว่า 800 คน ของบริษัท มากุโระ กรุ๊ป มีความภาคภูมิใจที่ได้มอบประสบการณ์มื้ออาหารที่เต็มอิ่ม โดดเด่น ด้วยหัวใจ GIVE MORE ผ่านสาขาร้านอาหารทั้งหมด 21 สาขา ภายใต้แบรนด์ MAGURO, SSAMTHING TOGETHER และ HITORI SHABU
Shokunin Shokunin = Craftsman / Artisan
สิ่งที่รวม “จรรยาบรรณของคนทำงาน” และ “ความภาคภูมิใจ” ในงานไว้ด้วยกัน สิ่งที่พร่ำสอนกันในหมู่ “ช่าง” ชาวญี่ปุ่น ถ่ายทอดจาก Master สู่ลูกมือ/เด็กฝึกงานทุกคน ไม่ใช่แค่ฝีมือ แต่คือ “ทัศนคติ” และ “สติ” ไม่ว่างานจะเล็กน้อยเพียงใด Shokunin มีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ ที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อความสุขของผู้คน ดีที่สุด ทั้งในด้าน “สิ่งที่จับต้องได้” และ “ความรู้สึกจิตวิญญาณ”
วิถีแห่ง Shokunin เมื่อคุณตัดสินใจเลือกอาชีพใดๆ คุณต้องให้เกียรติ และ รักในอาชีพนั้นๆ ทุกๆ วันคือการเรียนรู้ที่จะทำงานนั้นให้ดีกว่าเดิม และไม่มีวันที่คุณจะหยุดเรียนรู้หรือพัฒนาทำให้ดีที่สุดกับทุกงานเสมอ ไม่ใช่เพราะคุณจะได้รับคำชม แต่เพราะนี่คือคุณค่าในตัวคุณ และแม้ไม่มีใครเห็น แต่คุณรู้อยู่แก่ใจ นี่คือการให้เกียรติตัวเอง ทำทุกอย่างด้วยความเบิกบาน อย่างละเมียด งดงาม และเต็มความสามารถ อัตลักษณ์ของคุณจะชัดเจนมั่นคง ทำให้คุณมีอิสระที่จะทดลองอะไรใหม่ๆ คุณจะเติบโตจากข้างใน การทำงานจะไม่ใช่แค่ทำให้เสร็จๆ แต่คือโอกาสที่ไม่หวนกลับมาในการพิสูจน์คุณค่าของตัวคุณเอง
